Wet Shave โกนหนวดแบบเก๋าๆ ที่มีดีกว่าแค่การโกนหนวด
เรื่องของหนวดๆ เป็นเรื่องที่หยุมหยิมของผู้ชายที่ บ้างก็ไว้ยาวพอเป็นสไตล์บ้างก็โกนแนบชิด เนียนหน้าใสมาเชียว ถ้าหากสังเกตุสังกาในท้องตลาดบ้านเรา เราจะเห็นมีดโกนที่มีใบมีดสองสามชั้น โฟมโกนหนวด ที่ดูดีๆก็มีอยู่ไม่กี่เจ้าในบ้านเรา เช่นเดียวกันกับ อาฟเตอร์เชฟ(After Shave) ที่เอาไว้โปะหอมๆเพิ่มความชุ่มชื้นหลังการโกน บทความวันนี้จะมาแนะนำการโกนที่เก๋ากึกดึกดำบรรพ์ รุ่นพ่อต้องร้อง!!! เรียกว่าการโกนแบบ Wet Shave ปัจจุบันหายากมากที่ร้านตัดผมจะมีให้บริการ Wet Shave จริงๆแท้ๆ ถึงมีก็จะอยู่ในร้านตัดผมหรูๆ ราคาแรงๆ เดี๋ยวเรามาดูกันว่าการ โกนแบบนี้นั้นมันเป็นยังไง ทำเองได้ง่ายแค่ไหน หล่อเนี๊ยบเหมือนไปร้านตัดผมหรือเปล่า
Wet Shaving แปลตรงๆ ก็คือการโกนหนวดแบบเปียกหรือการโกนหนวดกับนำ้ ซึ่งจะมีอุปกรณ์การโกนอย่างเช่น Safety Razor มีดโกนชั้นเดียวที่มีใบมีดสองด้าน ใครนึกไม่ออกให้นึกถึงตอนไปงานบวช ที่พระท่านใช้ตอนปลงผมนาค อันนั้นแหละคือใช่เลย หรือเก๋ามาหน่อย ที่ร้านตัดผมใช้กัน Straigth Razor บ้านเราเรียกใบมีดสะบัดหนัง สาเหตุที่เรียกแบบนี้ก็เพราะว่า เวลาใช้งานจะต้องรับมีดโดยการปาดไปมาบนหนังวัวที่เป็นแผ่นยาวๆเสียก่อน นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ สะบัดหนัง ลักษณะตัวมีดเหมือนใบมีดพับซึ่งคมมากๆ และต้องใช้ความสามารถในการโกนประมาณหนึ่งเลยทีเดียว แต่ปัจจุบันที่ร้านตัดผมใช้จะเป็นแบบถอดมีดโกนออกมาได้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ตัวใบมีดก็ใช้อันเดียวกันกับที่ใช้ใน Safety Razor เพียงแค่หักครึ่งเท่านั้นเอง
Shaving Sope หรือ Shaving Cream เป็นก้อนสบู่โกนหนวดหรือแบบครีม ที่ใช้ในการโกนหนวดโดยเฉพาะ โดยการโกนแบบดั่งเดิมนี้จะต้องใช้แปรงขน Shaving Brush เพื่อตี หมุนๆวนๆ ให้เกิดฟองที่เจ้าตัวสบู่หรือครีมก่อนเอามาปาดที่หนวดของเราก่อนการโกน ซึ่งสามารถปาดวนๆบนใบหน้าเพื่อเตรียมหนวดให้ตั้งชันก่อนการโกนได้เช่นกัน ซึ่งเจ้าตัวแปรงนี้ก็จะมีหลักๆอยู่สองประเภทคือแบบ ขน Badger หรือ Boar ซึ่งผิวสัมผัสจะต่างกันแล้วแต่ชอบ ปัจุบันมีแบบกึ่งๆผสมๆ เช่นกัน ราคาจะถูกลงมาหน่อย
สำหรับหลังการโกนจะมี After Shave ซึ่งจะมีแบบ นำ้ ครีม บาร์ม ให้เลือก มีส่วนประกอบของนำ้หอมด้วย เพื่อคืนความชุ่มชื้นหลังการโกนให้กับผิว ลดอาการคันผื่นแดงหลังการโกน พร้อมกลิ่นหอมๆ ราวกับฉีดนำ้หอมมาเลยจริงๆ อีกอย่างนึงที่ใช้กันเป็นออฟชั่นเสริมสะมากกว่า หลังการโกนก็คือ Alum Blog แปลไทยๆ มันคือ สารส้ม นั่นเอง อันนี้ใช้หลังโกนได้ โดยเฉพาะกรณีที่โกนแล้วเกิดบาดแผลขึ้นมา การใช้เจ้านี้จะช่วยบรรเทาอาการเลือดออกได้ แต่จะแสบๆหน่อยน่ะ
ขั้นตอนในการโกนง่ายๆ ทำตามขั้นตอนนี้หล่อแน่ เรามาดูกัน
- ล้างหน้าให้สะอาด เอา Shaving Brush แช่นำ้อุ่นไว้ระหว่างล้างหน้า จะช่วยให้ขนแปรงนุ่มขึ้น
- เอา Shaving Brush มาตีฟองกับ Shaving Soap หรือ Shaving Cream ที่ใส่ภาชนะ อย่างถ้วยไว้ให้เรียบร้อย ตีให้เกิดฟองไปสักพัก จะเกิดฟองหนาๆ นุ่มๆ ขั้นตอนนี้กลิ่นจะหอมสุดๆ
- นำมาป้ายที่บริเวณหนวดทาๆถูๆวนบริเวณที่ต้องการโกน แล้วเริ่มโกนได้ การโกนเพียงแค่โกนบางๆเบาๆไม่ต้องกดเพราะตัวด้ามมีดค่อนข้างมีนำ้หนัก ป้องกันการบาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างโกน พอโกนเสร็จล้างหล้าด้วยนำ้เปล่าให้สะอาด เช็ดหน้าให้แห้ง
- จบด้วยการทา After Shave เพียงพอประมาณให้ทั่วบริเวณที่โกน
เท่านี้ก็จบกระบวนการโกนหนวกแบบ Wet Shave แบบง่ายๆ โกนได้เองจากที่บ้าน แต่ถ้าหากไปโกนที่ร้านที่ช่างทำให้แบบถึงพริกถึงขิง ขั้นตอนจะพิถีพิถันกว่านี้เยอะมาก ก็ไปลองดูกันได้แล้วจะชอบ
สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบและหลงเสน่ห์กับการโกนสไตล์นี้ก็เพราะว่า นอกจากเสน่ห์ของการโกนแล้วมันคือตัวสินค้า ยกตัวอย่างเจ้าตัว สบู่โกนหนวด ส่วนผสมค่อนข้างที่จะเป็นธรรมชาติมากกว่าแบบกระป๋องโฟมที่ขายในท้องตลาดทั่วไป ตัวกลิ่นที่มีให้เลือกหลากหลาย แพ็คเกจสวยงามดูดีมีสไตล์ วินเทจเบาๆ เท่ๆ คูลๆ ที่สำคัญมันถึกทนใช้งานได้นานมากๆตัวก้อนสบู่มันค่อนข้างแข็งและใหญ่ ไม่ละลายง่ายเหมือนสบู่อาบนำ้ ใช้ได้หลายเดือนอาจถึงปีเลยด้วยซำ้ นอกจากนั้นมันเป็นการโกนที่แนบสนิทจริงๆ ลดการเกิดอาการคันหรือผื่นแดงจากการโกนเทียบกับการใช้ใบมีดที่มีหลายๆชั้น และข้อสำคัญสุดท้าย มันประหยัดในการใช้งานระยะยาวมากๆ หลายคนอาจจะบอกว่าโกนแบบนี้แพง เพราะอุปกรณ์นำเข้าสะเป็นส่วนใหญ่ตัวสินค้าก็มีราคาประมาณนึงอยู่แล้วด้วยพอรวมๆกันมันเลยดูแพง แต่ถ้าเทียบกันจริงๆอุปกรณ์มันใช้ได้ยาวนานกว่ามากโดยเฉพาะสบู่โกนหนวด ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ตัวใบมีดโกนราคาถูกกว่าหลายเท่าตัว ตกหารต่อเดือนถูกมากๆสำหรับคนที่โกนบ่อยๆ รับประกันว่าถูกกว่าแบบเห็นๆในระยะยาวอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะโกนหรือจะไว้หนวดการดูแลรักษาให้สะอาดเรียบร้อยก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องหยุมหยิมของผู้ชายอย่างที่ว่านั่นแหละ
